Blog

 การนอนไม่พอส่งผลสียต่อสุขภาพในหลายด้านขณะเดียวกันการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอก็ส่งผลดีต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น…. เสริมสร้างสมาธิ การนอนหลับอย่างเพียงพอช่วยให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพส่งผลให้มีสมาธิมากขึ้น จดจำรายละเอียดต่างๆได้ดีขึ้น อีกทั้งมีงานวิจัยพบว่าคุณภาพการนอนที่ดีอาจช่วยให้มีทักษะการแก้ปัญหาสูงขึ้นด้วย. ช่วยให้อารมณ์ดี การนอนหลับมีควมสัมพันธ์กับอารมณ์และสุขภาพจิตมากกว่ที่หลายคิดโดยการนอหลับเต็มอิ่มและเพียงพออาจช่วยให้รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าในขณะที่มีงานวิจัยบางส่วนพบว่าการนอนไม่พออาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคซึมเศร้าและปัญหาทางสุขภาพจิต.การนอนมีประโยชน์มากมาย แต่ต้องรู้จักนอนให้ถูวิธีและเหมาะสม จึงจะเพิ่มประสิทธิภาพให้ร่างกาย  Cr. https://www.facebook.com/patexthailand/

เสริมภูมิคุ้มกัน สู้เชื้อไวรัส แค่นอนให้พอร่างกายแข็งแรงโรคภัยไม่กวนใจ ต้องยอมรับว่าปัจจุบันโรคภัยไข้เจ็บ เชื้อโรค เชื้อไวรัสต่าง ๆ มีอยู่รอบกายเราในทุก ๆ ที่ หากไม่ระวังดูแลรักษาสุขภาพร่างกายให้ดี อาจพลาดพลั้งตกเป็นเหยื่อถูกเชื้อไวรัสเล่นงานจนเจ็บไข้ได้ป่วยก็เป็นได้ ซึ่งการใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังไม่ให้พลาดพลั้งนั้น ไม่เพียงแค่ออกกำลังกายหรือยกการ์ดให้สูงป้องกันตัวเมื่อออกจากบ้านแต่เพียงเท่านั้น แต่ยังร่วมถึงการนอนหลับพักผ่อนที่ต้องนอนให้เพียงพอในทุก ๆ วัน และต้องเป็นการนอนหลับที่มีคุณภาพ คือ หลับลึกไม่น้อยกว่า 6 – 8 ชั่วโมงอีกด้วย ระบบภูมิคุ้มกันจึงจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือใช้ตัวช่วยเสริมการนอนหลับให้มีคุณภาพอย่างที่นอนยางพาราหรือท็อปเปอร์ยางพาราที่ช่วยให้หลับลึกกว่าเดิมถึง 40 % เลยทีเดียว 4 กิจกรรมเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงสู้เชื้อไวรัสได้สบาย ต้องบอกก่อนว่าหากร่างกายได้รับการนอนหลับที่ไม่มีคุณภาพ จนไม่สามารถซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้ในแต่ละคืน นอกจากเสี่ยงเกิดโรคต่าง ๆ มากมายแล้ว ร่างกายยังสร้างสารไซโตไคน์ (Cytokines) ได้น้อยลง ซึ่งเจ้าสารนี้เกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันโดยตรง เท่ากับว่าหากนอนไม่ได้คุณภาพ ประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันจะลดลง การติดเชื้อหรือเกิดโรคต่าง ๆ จึงเกิดได้ง่ายขึ้น มาดูกันว่ามีกิจกรรมอะไรบ้างที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กลับมาแข็งแรงมากประสิทธิภาพเช่นเดิม 1. นอนให้พอ หลับให้ลึก ในผู้ใหญ่ควรนอนหลับพักผ่อนในแต่ละคืนไม่น้อยกว่า 6 – 8 ชั่วโมง และมากกว่านั้นในเด็ก ซึ่งต้องไม่น้อยกว่า 9 – 12 ชั่วโมง […]

นั่งเรียน นั่งทำงานมาครึ่งค่อนวัน เกิดอาการง่วงตาหนักเหมือนจะปิดลงมาเสียให้ได้ แต่จะงีบนอนก็กลัวจะส่งผลเสียต่อสุขภาพการนอนในตอนกลางคืน เลยจำเป็นต้องถ่างตาฝืนความง่วงด้วยวิธีต่าง ๆ นานา ไม่ว่าจะเป็นดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน ลุกเดินไปมา ขยับเปลี่ยนอิริยาบถ แต่ถึงแม้อาการง่วงจะพอบรรเทาไปได้บ้าง แต่ก็ไม่สดชื่นเหมือนเคย ซึ่งที่จริงแล้วหากง่วงจนทนไม่ไหวจริง ๆ ก็สามารถนอนกลางวัน หรืองีบหลับได้ แต่ต้องนอนอย่างถูกวิธีถึงจะไม่กระทบต่อคุณภาพการนอน และเสริมการนอนหลับที่มีคุณภาพด้วยที่นอนยางพาราในเวลากลางคืนร่วมด้วย4 วิธีนอนกลางวันให้ไม่กระทบต่อคุณภาพการนอน ช่วยรีเฟรชตัวเองระหว่างวัน 1. แค่งีบก็พอ ไม่ต้องถึงกับนอนหลับจริงจัง เพียงแค่งีบสักพักก็เพียงพอต่อการรีเฟรชตัวเองให้กลับมาสดชื่น หายจากอาการง่วงหงาวหาวนอนเป็นปลิดทิ้ง ซึ่งการงีบหลับในตอนกลางวันนั้นไม่ควรนานเกิน 30 นาที 2. แค่นอนไม่ต้องถึงกับหลับ แต่สำหรับผู้ที่ไม่อยากงีบหลับ สามารถใช้วิธีนี้แก้อาการง่วงได้ เพียงแค่ล้มตัวลงนอนบนที่นอนยางพารามากคุณภาพ และงดกิจกรรม งดการเล่นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ นอนนิ่ง ๆ แต่ไม่ต้องถึงกับหลับก็สามารถช่วยบรรเทาอาการง่วงได้เช่นกัน เพราะร่างกายได้รับการผ่อนคลายจากการใช้งานเครื่องนอนที่ถูกพัฒนามาเพื่อช่วยรองรับสรีระได้อย่างถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์โดยเฉพาะ จึงสามารถกระจายน้ำหนักและแรงกดทับได้ดี ร่างกายจึงเกิดความผ่อนคลาย และฟื้นคืนความสดชื่นกลับมาได้แม้ไม่ได้หลับ 3. จัดสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการนอน เพราะเวลาในการนอนกลางวันนั้นมีไม่มาก ทำให้สภาพแวดล้อมต้องเอื้อต่อการนอน การงีบหลับจึงจะเป็นไปอย่างมีคุณภาพ อาทิ แสงไฟในบริเวณที่งีบหลับต้องสลัวหรือมืด ควรเป็นห้องที่เงียบ รวมถึงใช้ที่นอนยางพารา เพราะจะช่วยให้หลับได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม 4. ไม่งีบหลังบ่ายสาม แม้จะบอกว่าการงีบหลับในตอนกลางวันนั้นช่วยรีเฟรชร่างกายได้ก็จริง แต่ก็ต้องเป็นไปอย่างมีเงื่อนไข โดยเงื่อนไขสำคัญคือไม่ควรงีบหลังบ่ายสามเป็นต้นไป เพราะอาจส่งผลต่อการนอนในตอนกลางคืน ทำให้คุณภาพการนอนถูกลดทอนลงได้ […]

5 เทคนิค การเลือกเฟอร์นิเจอร์ เข้าบ้านให้ตอบโจทย์การใช้งาน เฟอร์นิเจอร์ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มเสน่ห์และความสวยงามให้กับบ้านของเรา ซึ่งหากเพื่อนๆ คนไหนกำลังมองหาเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน ขอเชิญทางนี้ เพราะได้หยิบเทคนิค การเลือกเฟอร์นิเจอร์ ให้เหมาะสมและตอบโจทย์ต่อการใช้งานมาฝากทุกคนกัน 1.พื้นที่ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาเป็นอันดับแรก ดังนั้นก่อนการเลือกซื้อ ควรวัดขนาดของพื้นที่ห้องและขนาดของเฟอร์นิเจอร์ เพื่อให้เฟอร์นิเจอร์ที่เราเลือกซื้อมานั้นเหมาะสมและตอบโจทย์ต่อการใช้งานมากที่สุด 2.วัสดุของเฟอร์นิเจอร์ การเลือกใช้งานเฟอร์นิเจอร์แต่ละประเภท ควรศึกษาหาข้อมูลต่างๆ ให้ดี ทั้ง ข้อดีข้อเสีย การดูแลรักษา การทำความสะอาด ฯลฯ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน 3.ฟังก์ชั่นครบครัน เช่น เฟอร์นิเจอร์มัลติฟังก์ชั่น ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะใช้งานได้อย่างคุ้มค่าแล้ว ยังช่วยประหยัดพื้นที่ไปในตัวได้อีกด้วย 4.การตกแต่ง สิ่งนี้ขึ้นอยู่กับความชอบและสไตล์ของแต่ละบุคคล เช่น บางคนชอบสไตล์การตกแต่งแบบมินิมอล ก็อาจจะเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นน้อย แต่มากไปด้วยประโยชน์ในการใช้งาน เป็นต้น 5.การใช้งาน ก่อนการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ ควรพิจารณาให้ดี คำนึงถึงประโยชน์และคุณสมบัติต่างๆ เพื่อให้การใช้งานของเฟอร์นิเจอร์นั้นคุ้มค่าและตอบโจทย์มากที่สุด Cr.https://decor.mthai.com/home-idea/tips-home-idea/49278.html

ที่นอนยางพารา VS ที่นอนทั่วไป ต่างกันอย่างไร ยุคนี้เห็นใคร ๆ ก็หันมาใช้เตียงนอนยางพารากันมากขึ้น แล้วมันดีกว่าที่นอนประเภทอื่น ๆ ขนาดไหน บทความนี้จะมาเทียบให้เห็นกันชัด ๆ ว่า เตียงนอนยางพารา กับ เตียงนอนทั่วไป แตกต่างกันอย่างไรบ้าง ใครกำลังหาซื้อเตียงนอนใหม่ต้องดู ความแตกต่างของที่นอนยางพารา กับ ที่นอนทั่วไป 1. วัสดุ/ขั้นตอนการผลิต ที่นอนยางพารา – ทำจากน้ำยางธรรมชาติ โดยขั้นตอนการผลิตจะนำน้ำยางมาปั่นให้ข้นฟู แล้วเทใส่แม่พิมพ์ให้แข็งตัวจนขึ้นเป็นรูปที่นอน ที่นอนทั่วไป – ส่วนใหญ่เป็นการนำฟองน้ำมาบดให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วอัดแน่นขึ้นรูปจนได้ที่นอนฟองน้ำอัด บางประเภทจะผสมยางพาราไปด้วย หรือมีสปริงรองรับข้างใต้ 2. น้ำหนัก ที่นอนยางพารา – น้ำหนักมากกว่า ไม่เหมาะกับการเคลื่อนย้าย หรือยกไปทำความสะอาด ที่นอนทั่วไป – น้ำหนักเบากว่า สามารถเคลื่อนย้ายได้ 3. ความนุ่มของผิวสัมผัส ที่นอนยางพารา – นุ่มน้อยกว่า เพราะด้วยโมเลกุลของน้ำยางพาราจะมีความทนต่อแรงที่กดลงมา ที่นอนทั่วไป – นุ่มนิ่มกว่า ถ้าล้มตัวนอนแรง ๆ จะรู้ได้ทันทีว่าที่นอนยุบนิ่มลงไปค่อนข้างมาก 4. การคืนตัว […]

การเลือกซื้อที่นอน

เลือกเฟอร์นิเจอร์แบบไหน ที่ทำให้คุณมีพื้นที่มากขึ้น ในยุคที่คอนโดห้องเล็กลงมากขึ้นทุกที แต่ข้าวของเครื่องใช้ยังหลายอย่างยังคงจำเป็นต้องมีเหมือนเดิม ส่งผลให้ในบางครั้งความจำเป็นของเราก็ทำให้ห้องนั้นแออัดมากขึ้น แต่รู้หรือไม่ว่าจริง ๆ เพียงแค่เปลี่ยนการจัดวางก็สามารถทำให้ห้องของคุณดูดี และกว้างขึ้นได้ และนี่คือเทคนิคการเลือกและจัดวางเฟอร์นิเจอร์เพื่อช่วยให้คุณแต่งห้องขนาดเล็กได้ง่ายมากขึ้นห้องขนาดไหนถึงเรียกว่าเล็ก หากพูดในเชิงทฤษฎีแล้วห้องในคอนโดมักมีขนาดตั้งแต่ 22 ตารางเมตรไปจนถึง 55 ตารางเมตรขึ้นไป แน่นอนว่าหากมองด้วยตาเปล่าห้องทั้งสองขนาดจะแตกต่างกันเป็นอย่างมาก แต่ในด้านการจัดห้องแล้ว การจะดูว่าห้องนั้นใหญ่หรือเล็กจะต้องอ้างอิงกับแบบเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงจำนวนของผู้อยู่อาศัยด้วย เช่น ห้องขนาด 55 ตารางเมตรแต่มีผู้อาศัย 5 คน จากห้องขนาดใหญ่ก็จะดูเล็กลงในทันทีแล้วเราจะแต่งห้องเล็กอย่างไรให้กว้างขึ้น สิ่งแรกที่ต้องดูเลยก็คือ เฟอร์นิเจอร์เทคนิคการเลือก และจัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้ใช้พื้นที่น้อยลง เฟอร์นิเจอร์เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อขนาดห้อง เฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาดใหญ่หรือมีจำนวนมากจนเกินไป ทำให้ห้องของคุณมีพื้นที่ใช้สอยน้อยลง ซึ่งหากคุณต้องการแต่งห้องแต่ไม่ต้องการใช้พื้นที่มากจนเกินไป การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีหลายฟังก์ชันจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคุณ1. โต๊ะเครื่องแป้งติดผนัง โต๊ะเครื่องแป้งแบบติดผนังเหมาะกับแต่งห้องแคบสำหรับคนที่มีเครื่องสำอางไม่เยอะมาก ซึ่งการใช้โต๊ะเครื่องแป้งแบบนี้ ช่วยเพิ่มพื้นที่บริเวณใต้โต๊ะให้ดูโล่งโปร่งสบาย และนอกจากนี้พื้นที่ดังกล่าวยังใช้เป็นพื้นที่เก็บของที่ไม่ได้ใช้อีกด้วย 2. โต๊ะเครื่องแป้งและโต๊ะทำงานใช้โต๊ะเดียวกัน การใช้โต๊ะเครื่องแป้งและโต๊ะทำงานร่วมกัน เหมาะสำหรับแต่งห้องเล็กที่ไม่สามารถตั้งโต๊ะได้สองตัว ซึ่งการใช้โต๊ะร่วมกันสิ่งสำคัญคือการจัดการพื้นที่บนโต๊ะให้พอดี เช่น นำเครื่องสำอางไว้บริเวณมุมหรือด้านข้างของโต๊ะ ส่วนบริเวณตรงกลางใช้เป็นพื้นที่สำหรับทำงาน      โดยปัจจุบันมีหลายแบนด์ที่เลือกออกแบบโต๊ะเครื่องแป้งและโต๊ะทำงานไว้ในโต๊ะเดียวกัน เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับคนที่อยากแต่งห้องแคบและต้องการประหยัดพื้นที่ 3. โซฟาปรับนอน การเลือกใช้โซฟาเบดหรือโซฟาปรับนอน เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่มีแขกมาเยี่ยมห้องอยู่บ่อยครั้ง การเลือกใช้โซฟาเบดสามารถช่วยขยายพื้นที่ให้แขกของคุณอยู่ในห้องได้สบายมากขึ้น และสามารถพับเก็บเพื่อประหยัดพื้นที่ได้เวลาที่ไม่มีแขกมาเยี่ยมเยียน 4. แขวนทีวีแทนการใช้ชั้นวางทีวี สำหรับการเปลี่ยนจากชั้นวางทีวีมาใช้วิธีการแขวนนั้น […]

เด็กวัยรุ่นจำเป้นต้องได้รับการนอนหลับพักผ่อนอย่างน้อย 8 ชั่วโมงครึ่ง เด็กวัยรุ่นส่วนใหญ่อาจไม่ได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ สาเหตุจากการทำกิจกรรมที่มากเกินไป หรือมักติดนอนดึกจนเป็นนิสัย อย่างไรก็ตาม เด็กวัยรุ่นจำเป็นต้องได้รับการนอนหลับพักผ่อนอย่างน้อย 8 ชั่วโมงครึ่ง ส่วนเด็กเล็กที่อยู่ในวัยประถมจะต้องได้รับการพักผ่อนถึง 10-11 ชั่วโมงทุกคืน การไม่ได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอจะส่งผลต่อระดับคะแนนการเรียนของเด็ก รวมทั้งอารมณ์และสุขภาพอีกด้วย ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าหารเด็กไม่ได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ มักจะมีนิสัยชอบหาอาหารที่ไม่มีคุณภาพมาทานทดแทน ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพ เช่น อาหารขยะ อาหารทอดหรือขนมขบเคี่ยวต่าง ๆ อาหารเหล่านี้จะทำให้เด็กมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นหากลูกในช่วงวัยรุ่นมีการบ้านหรือกิจกรรมต่าง ๆ มากเกินไป จนทำให้ไม่สามารถนอนหลับได้อย่างเพียงพอ คุณพ่อคุณแม่ต้องใช้วิธีตัดกิจกรรมที่ไม่สำคัญออกไปบ้าง

“เปลี่ยนผ้าม่าน เปลี่ยนสีผ้าปูที่นอน ใช้ที่นอนยางพาราอย่างดี” แต่รู้สึกเหมือนมีอะไรขาดหายไป เคยไหมที่รู้สึกว่าการ ตกแต่งห้องนอน ยังทำได้ไม่สุดแม้จะจัดแจงตามต้องการแล้ว บางคนยังมีอาการภูมิแพ้รบกวนอยู่ทั้งที่ทำความสะอาดอย่างดี บางคนพยายามทำให้ห้องไม่ร้อน แต่ห้องก็ยังอบอ้าวและอับชื้นอยู่ดี วันนี้เราจึงขอแนะนำวิธีการที่จะช่วยให้คุณตกแต่งห้องนอน ที่จะทำให้ห้องของคุณทั้งสวยงามน่าอยู่และดีต่อสุขภาพการนอนของคุณเอง 1. เลือกสีโทนอ่อน การเลือกสีให้กับห้องนอนของคุณ สิ่งสำคัญคือความชอบของคุณเป็นหลัก เพียงแต่ควรทำให้สีนั้น ๆ เป็นโทนอ่อนที่ดูสบายตา เพราะห้องนอนเป็นห้องสำหรับพักผ่อน ไม่ควรใช้สีเข้มทึบหรือจัดจ้านจนเกินไป รวมถึงสีขาวล้วนที่สะท้อนแสงมาก อาจส่งผลให้รบกวนสภาพจิตใจและพลังงานชีวิตตามศาสตร์ฮวงจุ้ยจีนได้ ถ้าเป็นสายมูเตลูก็เลือกใช้สีที่ให้ความหมายตามต้องการได้ เช่น สีชมพู เสริมเรื่องความรักความสัมพันธ์ สีเขียวช่วยเรื่องความเจริญรุ่งเรือง สีครีมช่วยในการส่งเสริมสุขภาพ เป็นต้น 2. เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่สะสมฝุ่น ถึงแม้จะใช้ที่นอนยางพาราคุณภาพดี มีคุณสมบัติที่ช่วยลดความอับชื้นและไรฝุ่นได้ แต่เฟอร์นิเจอร์ชนิดอื่น ๆ ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ไม่ควรปูพรมในห้องนอนเพราะสะสมฝุ่นได้ง่ายกว่าพื้นยางหรือพื้นกระเบื้อง รวมไปถึงของตกแต่งจำพวกตุ๊กตา เก้าอี้ โซฟา และชั้นวางของ ไม่ควรใช้แบบที่มีผิวเป็นขนเพราะสะสมฝุ่นได้ง่ายเช่นกัน ถ้าเป็นไปได้เลือกให้ใช้เฟอร์นิเจอร์ที่เคลือบสารป้องกันไรฝุ่นได้ก็จะดีที่สุด แต่ถึงจะเคลือบสารป้องกันไรฝุ่นแล้วก็ไม่ควรใช้เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งห้องนอนมากเกิน ในส่วนของการเลือกผ้าปูที่นอนซึ่งสัมผัสกับร่างกายโดยตรง ควรเลือกชนิดที่ทำให้หลับสบายได้เช่นกัน 3. ปลูกต้นไม้ฟอกอากาศ ห้องนอนควรมีหน้าต่างอย่างน้อย 2 บานเพื่อการระบายอากาศและให้แสงแดดส่องถึง ถ้าใครชอบธรรมชาติอยู่แล้วขอแนะนำให้มีต้นไม้ฟอกอากาศไว้ในห้องบ้างก็จะช่วยเพิ่มความสดชื่นได้เป็นอย่างดี สำหรับคนรักต้นไม้มือใหม่ ควรเลือกเป็นไม้ใบที่ดูแลง่าย เหมาะกับการปลูกในห้องนอน เช่น ต้นลิ้นมังกร ปาล์มไผ่ เศรษฐีเรือนใน […]

อาการปวดหลัง ปวดไหล่ เรียกได้ว่า เป็นหนึ่งในอาการที่สร้างความทรมานและความรำคาญใจให้กับคนแทบทุกเพศ ทุกวัย โดยเฉพาะในกลุ่มคนวัยทำงานที่พบได้มากถึงร้อยละ 80 และหากไม่ได้มีการแก้ไขในเบื้องต้น ก็อาจจะกลายเป็นอาการเรื้อรังที่นอกจากจะส่งผลเสียต่อร่างกายแล้ว ยังกระทบกับการทำงาน และต้องสูญเสียรายได้หรือเสียเวลา เพื่อไปรักษาตัวเมื่อเกิดอาการรุนแรง ดังนั้น เพื่อให้หลายคนมีความสุขกับชีวิตมากขึ้น บทความนี้จะพาคุณมาทำความเข้าใจถึงสาเหตุของอาการดังกล่าว วิธีบรรเทาอาการ รวมถึงแนะนำไอเทมสำคัญอย่างที่นอนยางพาราลดอาการปวดหลัง ตัวช่วยดีๆ ที่คนยุคนี้ต้องมี 1. ฝึกฝนตัวเองให้อยู่ในท่าทางที่ถูกต้องและดีต่อสุขภาพหลัง เช่น นั่งให้เต็มเก้าอี้ หลังตรง ไม่ลงน้ำหนักไปข้างเดียว และเก้าอี้ควรมีความสูงเสมอเข่า พร้อมทั้งมีที่พิงที่โค้งนูนเล็กน้อย เพื่อจะได้รองรับบริเวณช่วงเอว นอกจากนั้น ควรจัดให้เก้าอี้อยู่ชิดกับโต๊ะในระดับที่พอดี สำหรับคนที่ต้องการนั่งทำงานบนที่นอน ก็ต้องไม่อยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน เพราะจะทำให้ปวดหลังได้ง่าย นอกจากนั้น ในขณะที่นอนหลับ ก็อาจเลือกนอนในท่าตะแคงกอดหมอนข้าง หรือนอนหงาย โดยมีหมอนหนุนต้นขาด้านหลังในขณะที่อยู่บนที่นอนยางพารา เพื่อไม่ให้หลังแอ่นและลดอาการปวดได้ 2. ออกกำลังกายให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลัง ทำให้รับน้ำหนักตัวได้ดีขึ้น และยังช่วยให้พังผืดของเอ็นข้อต่อที่ยึดเกาะบริเวณกระดูกสันหลังส่วนเอวได้ยืดขยาย การเคลื่อนไหวของลำตัวจึงเป็นไปอย่างเหมาะสม พร้อมทั้งยังช่วยลดอาการเจ็บปวด และเป็นการลดน้ำหนักตัวได้ดีอีกด้วย สำหรับใครที่ไม่มีเวลา อาจใช้เป็นการบริหารกล้ามเนื้อเบา ๆ หรือยืดเส้นยืดสายบนที่นอนยางพารา เพราะแม้เหงื่อจะออกก็ไม่เกิดปัญหาการอับชื้น 3. ประคบร้อน เมื่อมีอาการปวดเมื่อยตามตัว การใช้ความร้อนประคบจะช่วยลดอาการปวดข้อและคลายกล้ามเนื้อได้ดี แต่ไม่ควรให้ความร้อนสัมผัสกับผิวหนังโดยตรง โดยให้นำผ้าชุบน้ำอุ่นที่อุณหภูมิประมาณ 40 องศาเซลเซียสประคบเบา […]